[อันนี้โดยส่วนตัวนะครับ] ถามว่าอะไรดีกว่าอะไรทฤษฎีนี้อาจพอช่วยท่านตัดสินใจในการเลือกใช้สายอากาศสำหรับติดรถยนต์ได้ แล้วก็สำหรับ 5/8 ความยาวคลื่นแบบชั้นเดียว กับ 5/8 ความยาวคลื่นแบบสองชั้นหรือ CL ที่ต้องมีกราวด์หรือไม่ อันนี้ผมก็ได้มาจากการแนะนำต่อ ๆ กันมาในนิตยสารของเมืองนอกครับ (สรุปสั้น ๆ นะครับ อย่าใช้งานต้นเดียวตลอด เปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์บ้างก็ดี > เรื่องของเรื่องมีหลายต้นจะได้เสียเงินเป็นเพื่อนกันหน่อย ฮิ ฮิ)
สายอากาศแบบ Quarter Wave มีอัตราขยาย 0 dBd เป็นสายอากาศแบบที่ต้องมี Ground plain จุดที่ติดตั้งควรจะเป็นบริเวณกลางหลังคา (โลหะ) รถ บางท่านทำใจไม่ได้ที่ต้องเจาะรูกลางหลังคา ขอแนะนำให้เลือกใช้ฐานแม่เหล็กแทน หากติดตั้งไว้ข้างรางน้ำรถ ก็รับส่งได้แต่สู้กลางหลังคาไม่ได้ มีมุมสะท้อนประมาณ 45 องศา
สายอากาศแบบ 5/8 แลมด้าชั้นเดียว บางท่านอาจไม่รู้จัก ที่ขายอยู่ในตลาดก็มียี่ห้อ Kulod Larsen กับ MFJ สำหรับของญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยิน มีอัตราขยายสูงสุด 3 dBd สายอากาศประเภทนี้ก็ต้องใช้ Ground plain เช่นกัน จุดที่ดีที่สุดก็เหมือนกับแบบ Quarter Wave แต่การแพร่กระจายคลื่นทำมุมสะท้อนประมาณ 33 องศา
สายอากาศแบบ 5/8 แลมด้า 2 ชั้น หรือที่เรารู้จักกันในนาม C- Load ปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ออกแบบเป็นแบบไม่จำเป็นต้องมีระบบ Ground plain มีอัตราขยายประมาณ 5-5.5 dB จึงเลือกติดตั้งกับรถยนตร์ได้หลายตำแหน่ง แต่ทั้งนี้ อาศัยหลังคารถช่วยก็จะทำให้ดีกว่า การแพร่กระจายคลื่นเป็นแบบเกือบ ๆ แนวระนาบ
สายอากาศทั้ง 3 รูปแบบนี้ ท่านคงจะสามารถตัดสินใจได้แล้วว่า สายอากาศรูปแบบไหน เหมาะสำหรับใช้ในการติดต่อกับใครนะครับ และทำไมสายอากาศแบบ Quarter Wave จึงใช้งานในเมืองได้ดีกว่า