เมื่อเวลา 05.00 น.ของช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค.2555 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจาก ตชด.33 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 500 คน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ กว่า 150 นาย ได้ทำการเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางเชียงใหม่ เพื่อติดตามการดำเนินงานการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและการนำสิ่งของต้องห้ามเข้าในเรือนจำ โดยมี นายพิรุณ หน่อแก้ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน ซึ่ง เรือนจำกลางเชียงใหม่ ได้มีมาตรการตรวจค้น และจู่โจมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจค้นยาเสพติดโทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามนำเข้าภายในเรือนจำ
ทั้งนี้เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนนักโทษทั้งหมด 4,236 คน และจากข้อมูลพบว่าส่วนใหญ่ต้องโทษคดียาเสพติดกว่า 60% โดยที่ผ่านมามีสถิติการจู่โจมตรวจค้นภายในเรือนจำกลางเชียงใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 - พฤษภาคม 2555 พบของกลางที่ถูกลักลอบนำเข้ามาภายในเรือนจำทั้งหมดเป็น โทรศัพย์จำนวน 47 เครื่อง ซิมการ์ด 7 อัน ที่ชาร์ตโทรศัพ 1 ชุด ยาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวน 287.25 เม็ด ไดซีแพม 1 รายการ Alprazolam จำนวน 12 เม็ด กัญชาอัดแท่งขนาด 5 กรัม เงินสด 3,800 บาท แบตเตอรี่ 3 ก้อน อุปกรณ์การพนัน 1 ชุด วิทยุ 1 เครื่อง และมีผู้กระทำความผิดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 91 คน
มล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า สำหรับภารกิจในการตรวจค้นเรือนจำในครั้งนี้เป็นนโยบายของรัฐที่ทางราชการต้องการให้ทุกเรือนจำทั่วประเทศเกิดความตื่นตัวและเคร่งครัดในแนวทางปฏิบัติต่อผู้ถูกคุมขัง และนักโทษ ดังนั้นการเข้าตรวจเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ก็ได้มีโอกาสรับรู้รับทราบร่วมกับทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ ว่าการปฏิบัติภาระหน้าที่ราชการนั้นเป็นไปในรูปแบบใดและมีความเคร่งครัด ซึ่งผลที่ได้รับจากรายงานคือความมุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานของความเป็นเรือนจำกลางที่ให้ความปลอดภัยต่อสังคมเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นอกมั่นใจต่อการทำงานของข้าราชการ
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นั้นไม่ประสงค์ที่จะให้มีข้อปัญหาอะไรต่างๆ เกิดขึ้นอย่างเช่นในบางพื้นที่ของประเทศไทย ดังนั้นทางหน่วยงานจะไม่ดำเนินการแบบวัวหายแล้วล้อมคอก แต่ทางเรือนจำได้มีมาตรการต่างๆ โดยรัดกุมอยู่แล้ว อีกทั้งทางจังหวัดโดยหน่วยงานทุกภาคส่วนก็พร้อมที่จะสนับสนุนภารกิจการทำงานของทางเรือนจำกลางเชียงใหม่ให้สำเร็จลุล่วงให้ได้ ซึ่งวันนี้ทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เดินทางเข้ามาตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ด้วยกันก็ได้รับข้อรายงานจากทางท่าน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ อย่างชัดเจน และจะทำงานโดยมาตรฐานนี้ในจังหวัดเชียงใหม่ในทุกๆ เรือนจำ รวมทั้งทัณฑสถานหญิงด้วยต่อไป
ในส่วนของของมาตรการต่างๆ ภายในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเรื่องที่ทางจังหวัดอาจจะต้องช่วยสนับสนุนเรื่องของการปฐมพยาบาล เรื่องของนายแพทย์และพยาบาล ที่อาจจะยังไม่มีความเพียงพอสำหรับผู้ป่วยและนักโทษที่เจ็บป่วย อีกเรื่องคือมาตรฐานที่ทางเรือนจำในขณะนี้งดการนำสิ่งของและอาหารต่างๆในการเข้าเยี่ยมทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้แสดงว่าทางเรือนจำต้องมีมาตรฐานในการดูแลนักโทษผู้ถูกคุมขังให้ดีในระดับหนึ่งด้วย เพราะบรรดาญาติพี่น้องของนักโทษไม่สามารถที่จะนำอาหารอะไรทั้งสิ้นเข้ามาเยี่ยมได้จากนี้ไปเพื่อสนองมาตรการของทางส่วนกลางและทางจังหวัดได้กำหนดไว้
ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติดในขณะนี้ถือเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข โดยส่วนใหญ่จากการที่ได้พูดคุยกับนักโทษพบว่าส่วนใหญ่ที่ต้องโทษจะเป็นเรื่องของยาเสพติดและอยากได้ฝากไปยังสถาบันครอบครัว ให้ดูแลสถาบันหลักนี้ให้เข้มแข็ง เพื่อป้องกันการถูกคุมขัง ซึ่งทำให้หมดอิสรภาพ และเป็นที่อับอายในสังคม
เบื้องต้นล่าสุดผลการตรวจค้นภายในห้องพักผู้ต้องขังในครั้งนี้ ยังไม่พบอุปกรณ์ประเภทเครื่องสื่อสาร และยาเสพติดแต่อย่างใด โดยส่วนใหญ่อุปกรณ์และสิ่งของที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้จะเป็น อุปกรณ์ เช่น ไฟแช๊ค หนังสือโป๊และสื่อลามก มีดคัตเตอร์ ใบมีด เข็มฉีดยา เป็นต้น