HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND

2100 FX เป็นที่ทราบดีว่า pa ตัวเล็กมีปัญหาเรื่องความร้อน ตะกั่วเดือด ทำให้ pa พังง่าย มีเพื่อนสมาชิกแนะนำว่า ให้ใส่ รีเลย์ และเปลี่ยน คอยล์ ทำให้เครื่องไม่ร้อน ตะกั่วไม่เดือด กำลังส่งเพิ่มขึ้น กินกระแสน้อยลง จริงเท็จประการใดครับ

   จริงเป็นบางอย่าง เท็จเป็นบางอย่างครับ 2100FX พีเอเป็นเฟต ซึ่งพีเอชนิดนี้ย่อมต้องมีข้อดีและข้อเสีย
แตกต่างกัน การใส่รีเลย์ เพิ่ม/เปลี่ยนคอยล์ เป็นการเพิ่มไฟไดรฟ์ให้พีเอมีกำลังส่งสูงขึ้นโดยใช้พีเอตัวเดิม
การทำให้กำลังส่งสูงขึ้นแล้วมาบอกว่า ทำให้เครื่องไม่ร้อน ตะกั่วไม่เดือด กำลังส่งเพิ่มขึ้น กินกระแสน้อยลง
จึงเป็นการขัดกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
    ข้อดีของเฟตคือใช้แรงดันน้อย แต่ให้กำลังส่งได้สูงกว่าแบบโมดูล แน่นอนว่าต้องกินกระแสมากกว่ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่หลักการทำงานคล้ายๆกันคือ เพิ่มไฟที่ไดรเวอร์ กำลังส่งก็จะสูงขึ้นตาม
    แน่นอนว่าข้อเสียย่อมไม่มีใครต้องการ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เฟตจะทนสู้โมดูลไม่ได้ และมีผลข้างเคียง
มากกว่าเช่น กวนสัญญาณการรับชมโทรทัศน์ได้มากกว่า

ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ ;D  ท่าน HS3JBX เค้าเป็น กูรู จริงๆครับ

ต้องเห็นกับตาท่านถึงจะเชื่อว่าจริง  ;D

ส่งมาให้เพื่อนผมแปลงพันธุกรรมใหม่ได้นะครับ ใส่ pa spendeer แต่ง  รับรอง กดกันกระจาย ไม่มีเดือน 70 วัตต์ + เห็นมากับตาและได้ทดสอบแล้วครับ ;D

แค่คิดก็ผิดแล้ว  เอาง่ายๆ P=ExI ลด E หรือ I ลงแล้ว P จะเพิ่มได้ไง( P ในที่นี้เป็นความร้อนนะยกตัวอย่างมาฉยๆ)  ทำงานมากขึ้นกลับร้อนน้อยลงอีก ไม่ใช่แอร์นะ

ถูกต้องครับ สนับสนุน  ตามทฤษฏี เป็นไปไม่ได้ครับ
ละอีกอย่าง
ถ้าผมจะซื้อ ให้เลือกระหว่าง เครื่องเดิมๆ 50+ กับเครื่องปรับแต่ง ใสรีเลย์ 70+ ซึ่งต้องแก้วงจรหลายจุด
ผมก็เลือกซื้อเครื่องเดิมๆดีกว่าครับ
ส่วนเสียงเดือด ถ้าไม่เยอะมากก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์   ;D ;D

กำลังวัตต์ไฟฟ้า กับ กำลังวัตต์(กำลังส่งของวิทยุ) ไม่เหมือนกัน  กำลังส่งของวิทยุจะใช้สูตร P=ExI ไม่ได้ครับ

ผมยกตัวอย่างถ้าสมมุติใช้สูตร P=ExI กับเพื่อหากำลังส่งวิทยุ เครื่องผม ic-2200 ไฟ13.8 กินกระแส 12.5A กำลังส่ง 60W

ถ้าหาจากสูตร P=13.8x12.5  P=172.5W ซึ่งมันก็ผิดจากความเป็นจริงครับ

   ในระบบภาคขยายกำลังส่ง ถ้าออกแบบดีๆ วัตต์ออกเยอะครับ กินกระสน้อยลง ความร้อนต่ำ  

ถ้าจัดวงจรไม่ดีก็ตรงกันข้าม ผมก็ไม่มีความรู้มากครับมั่วๆเอา ผมมี Linear Amp Mosfet 50W กินกระแสแค่ 4A เองครับ

     เป็นกระทู้ออกแนววิชาการไปนิด แต่อ่านแล้วได้ความรู้ดี เหมาะสำหรับนักวิทยุสมัครเล่น
ที่ต้องการหาความรู้
     ส่วนที่ท่านWCS-2008บอกมาก็ถูกต้องครับ กำลังวัตต์ของไฟฟ้ากับกำลังวัตต์ของคลื่น
RFต่างกัน ที่ท่านnan2531ยกตัวอย่างมาเพื่อเปรียบเทียบถึงทษฎีและความเป็นไปได้เท่านั้น
ไม่ได้บอกว่าเป็นอันเดียวกัน
     ยกตัวอย่างสวิทชิ่งคอมพิวเตอร์ 12 โวลต์ 26 แอมป์ หากคำนวณออกมาเป็นวัตต์ แน่นอน
ว่าเป็นร้อยวัตต์ แต่ทำไมเวลาเอามาใช้กับเครื่องโมบายล์ 50 วัตต์+ จึงไม่สารถจ่ายกระแสได้ต่อ
เนื่องยาวนาน
    คำตอบจึงอยู่ในกระทู้ของท่านครับ
กำลังวัตต์ไฟฟ้า กับ กำลังวัตต์(กำลังส่งของวิทยุ) ไม่เหมือนกัน  กำลังส่งของวิทยุจะใช้สูตร P=ExI ไม่ได้ครับ

ผมยกตัวอย่างถ้าสมมุติ ใช้สูตร P=ExI กับเพื่อหากำลังส่งวิทยุ เครื่องผม ic-2200 ไฟ13.8 กินกระแส 12.5A กำลังส่ง 60W

ถ้าหาจากสูตร P=13.8x12.5  P=172.5W ซึ่งมันก็ผิดจากความเป็นจริงครับ

172.5W คือกำลังไฟฟ้าที่ใช้ กำลังส่งของเครื่องก็คือ  60W ถ้ายกตัวอย่าง Switching 12V 26A เอามาใช้กับวิทยุ

กำลังส่ง 60W สามารกออกอากาศได้ต่อเนื่องแน่นอนครับ จะกดคีย์แช่ทั้งวันก็ยังได้ โดยที่สวิตย์ชิ่งยังคงจ่ายแรงดันได้ต่อเนื่อง

ถ้าคิดจากสูตร P=ExI กำลังวัตต์ของสวิตย์ชิ่ง 12x26 = 312W สวิตย์ชิ่งจ่ายกำลังไฟฟ้าได้ 312วัตต์ วิทยุใช้ 172.5วัตต์

ตามทฤษฎีแล้วเพียงพอครับ แต่ในทางปฎิบัติต้องดูด้วยว่า 12V/26A ที่เขียนติดไว้ จ่ายได้จริงหรือเขียนหลอก

ยังไม่ได้พูดถึงการสูญที่เกิดจากความร้อนเดี๋ยวจะนอกประเด็นไป

ผมขอนุญาตอ้างอิงข้อความเดิมของเจ้าของกระทู้หน่อยนะครับ ในเรื่องของความเป็นไปได้ ในเรื่องของการกินกระแสน้อยลง

กำลังส่งมากขึ้น ความร้อนน้อยลง ที่ผมมาชิ้แจงแถลงไข อาจจะเป็นความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับเพื่อนๆ แต่จะบอกว่ามันเป็นไปได้ครับ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผมก็ยังไม่เคยลองทำ เพราะฉนั้นก็ไม่ได้ฟันธง แต่ผมทดลองในเรื่องของ Linear Amp ซึ่งสามารกทำได้

แต่ในทางปฏิบัติก็ข้อขัดแย้งกันอีก บางท่านทำได้ บางท่านทำไม่ได้ แล้วก็มานั่งเถียงกัน นานาจิตตังครับ

ผมมี IC-2100FX อยู่ตัวนึง
รับได้แต่ส่งไม่ได้(เปิดฟังได้อย่างเดียว อิอิ)
วิธีแก้ไข หรือซ่อม ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คับ
 

    ติดต่อคุณอั๋นสิครับ

ถูกต้องครับ ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ อิอิ เป็นเพียงการยกตัวอย่างครับวงเว็บใว้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อวัตต์เครื่องส่งสูงขึ้น กระแสกินมากขึ้น กำลังไฟฟ้าก็จะมากขึ้นสัมผัสได้จากความร้อนมันจะมากขึ้น  ส่วน Linear Amp นั้นหนาจะมาเทียบกับโมบายไม่ได้หรอกครับ เพราะโมบายมีภาระหลายอย่าง ไฟหน้า vco ปรีไดรเวอร์ เป็นต้นจึงกกินกระแสมากกว่า Linear Amp และถ้าLinear Amp มี PA ตัวเดียวโดดๆก็จะกินกระแสน้อยได้อ่า

ไม่ได้เปลี่ยบเทียบครับ พูดถึงภาค Power การทำไห้กินกระแสน้อยลง ความร้อนน้อยลง แต่กำลังมากขึ้น

ใน Linear ทำได้ แต่กับโมบายยังไม่เคยลองครับ เดี๋ยวหาโมยบายมาลองก่อน ทางทฤษฏีเป็นไปได้

แต่ในทางปฏิบัติต้องลองดูก่อน จะสรุปจากทฤษฏีไม่ได้ครับ  ;D

หมายความว่าเดิมที Linear Amp Mosfet 50W ของท่านกินกระแส มากว่า 4 แอมป์แล้วท่านทำให้มันกินไฟเหลือแค่ 4 แอมป์หรือป่าวด้วยควาเคารพครับ

ของผมเดิมๆ 50W กินกระแสประมาณ 7 แอมป์  พอเปลี่ยนคอยล์แล้วจัดระบบไฟใหม่ วัตต์ ตั้งที่ 50W เหมือนเดิม แต่กระแสลดลงมากินที่ 4.5 แอมป์ และยังสามารถ ปรับขึ้นไปได้อีกเยอะกว่าเดิมแต่ผมใช้ที่ 50W เท่าเดิม รู้สึกว่าไม่ค่อยร้อนเร็วเหมือนเครื่องเดิมๆ  ปล.เคยเอา PA วิทยุชมชนมาใส่ได้วัตต์เยอะแต่ร้อนเร็วกว่าเดิม

Linear Amp ของผมกินกระแส 4A ครับ ออก 40W แต่ทำไห้ออก 50W ได้ โดยที่กินกระแส 4A เท่าเดิม

แต่ถ้าจะเอา 40W เท่าเดิม กระแสที่ใช้ก็จะน้อยลงด้วยครับ

แนวทางแบบนี้เป็นแนวทางที่ดีคัรบ ไม่ว่าจะเป็น กินไฟน้อยลงได้กำลังงานมากขึ้น กินน้ำมันน้อยลงวิ่งได้ระยะทางมากขึ้น ก็มีคนทำได้มาแล้ว เป็นการสวนทางทฤษฏีบ้างแต่ก็มีที่มาที่ไป ในงานอิเล็กทรอนิกส์ก็เห็นเป็นหน้าเป็นตาก็ power amp class D ดังขึ้น ร้อนน้อยลง กินกระน้อยลง เมื่อเทียบกับ class AB   ส่วนรถยนต์ก็รู้ๆกันอยู่นะ  ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็หวังว่าจะมีคนทำให้ RF ออกเยอะๆกินไฟน้อยๆความร้อนน้อยๆแบบจิงๆอิอิ

อ่านแล้วได้ความรู้จริงๆครับ ;D แล้วมีเพื่อนสมาชิกท่านไหน เคยทำมาแล้วบ้างครับ :)

ขอเสริมนิดนึงครับ
P=ExIxe
โดย P คือ Power ที่ได้ , E แรงดันที่จ่ายให้ , I คือกระแสที่กิน และ e คือประสิทธิภาพของวงจรขยาย
สมมุติว่า แรงดัน 12 โวลท์จ่ายให้ Linear Amp แล้วกินกระแส 10 Amp วัตต์ที่ควรจะได้คือ 120 วัตต์ครับ
แต่ด้วยประสิทธิภาพของวงจรขยายยังไงเสียก็ไม่ได้ถึง 100 % อย่าง Class C ประสิทธิภาพอย่างดีที่สุดคือ 60%
ดังนั้นแล้ว วัตต์ที่ได้จริงคือ 12x10x0.6 = 72 วัตต์ ณ ที่ Output ของ วงจร แต่ว่าโดยทั่วไปแล้ววงจรที่ดีก็จะมีวงจรกรองสัญญาณ ซึ่งจะทำให้มีการสูญเสียจากการกรอง สมมุติว่า 10 % ก็จะได้วัตต์ที่จุดต่อไปหาสายอากาศคือ 72 x 0.9 = 64.8 วัตต์ ทีนี้มันอยู่ที่ว่าวิธีทำของแต่ละท่านมันอยู่ส่วนใหน เช่นมีการปรับ class ของการขยาย หรืออาจจะมีการปรับจุดกรองสัญญาณ ประมาณว่าลดการสูญเสียจากการกรอง(แต่อาจจะมีการรบกวนมากขึ้น) ก็อาจจะทำให้ได้วัตต์เพิ่มขึ้นโดยกินกระแสน้อยลงหรือเท่าเดิมได้ เมื่อกินกระแสน้อยลง ความร้อนก็อาจจะลดลงได้เช่นกัน

แล้วเจ้า e คือประสิทธิภาพของวงจรขยายเนี๊ยเราจะรู้ได้อย่างไรว่าวงจรขยายแต่ละวงจรมีค่าเท่าไหร่ครับ

เดี๋ยวถ้ากล้องมา จะถ่ายมาโชว์ครับ โมแล้วออก100 วัตต์เต็ม จะถ่ายให้ดูว่าภายในทำงานอย่างไร

นำรูปมาให้ดูเล่นครับกินกระแสที่10A
(http://upic.me/t/jt/12052010169.jpg) (http://upic.me/show.php?id=380d18b6b1b1b1c76ac351c9836fdf47)
เด๊ววันหลังจะถ่ายรูปมาให้ดูครับ

เปลี่ยน พีเอ ซื้อจากในเวปมาเปลี่ยนเอง 1,450 บาท

เหอๆๆๆ  เข้ามาดู

อยากชมรูปครับ ดันครับ เพื่อนสมาชิกท่านใดมีแหล่งรับโม ;D รบกวนแจ้งด้วยครับ

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=6748_4C086318) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=6748_4C086318)

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=BEF1_4C086318) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=BEF1_4C086318)

รูปอาจไม่ชัดเพราะถ่ายจากมือถือครับ จัดระบบไฟใหม่แล้วปรับแต่งภาค drive และ LPF ทำภาค power ให้เป็น full wave โดยการถอด pindiode แล้วใส่ relay แทน ที่เห็นตัวสีฟ้าอ่ะครับ แล้ว coil ที่เพิ่มเป็นการจัดระบบไฟครับ

น่าสน ขอบคุณมากครับ เพื่อนสมาชิกที่เป็น กู รู มีความเห็นเป็นยังไงกันบ้างครับ

อย่างผมอยู่เชียงใหม่ ภูมิประเทศเป็นภูเขา 50 วัตต์ ไปไม่ถึงไหนครับ ถ้าไม่ขึ้น ทาวเวอร์

เอาพินไดโอดออก สัญญาณที่ออกจาก PA จะเป็น full wave เพราะไม่ต้องผ่านพินไดโอด

ที่กำลังส่งเท่ากัน เครื่องที่ทำเป็น full wave สัญญาณจะเข้มข้นกว่า

สุดยอดเลยครับ เสียดายที่รูปไม่ชัด รบกวนถ่ายไห้ชมใหม่ได้ใหมครับ เอาแบบชัดๆเลยครับ

เรียนเพื่อนๆทุกท่านครับ การทำงานของ pindiode ต่างจาก diode rectifier ครับ
pindiode ทำหน้าที่เป็นสวิทให้คลื่น RF ผ่านโดยมีไฟไบอัสแบบ forward ครับเมื่อมีไฟไบอัสแล้ว RF จะผ่านไปได้ทั้งซีกบวกและลบ ไม่ได้แบ่งเป็น half wave หรือ full wave แต่อย่างใดครับ ส่วน diode rectifier เป็นการ detec rectifier จะยอมให้ผ่านเฉพาะทาง บวกหรือลบเท่านั้นแล้วแต่การจัดวงจร  อย่าไปยึดติดว่า dioad ยอมให้ไฟผ่านได้ทางเดียว มันขึ้นอยู่กับการจัดวงจรครับ อยากจะเรียนว่าการเอารีเรย์ไปแทน pindiode ไม่ได้ผิดแต่ประการใด แต่วัตต์ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากซักเท่าไหร่ ถ้าใครอยากรู้วันหน้าจะมีภาพประกอบมาอธิบายให้ดูครับ ด้วยความเคารพเซียนๆทุกท่าน Hs2yme ครับ

แต่ เอ! full wave กับ half wave     ทำให้สัญญาณเป็น full wave แล้วสัญญาณจะเข้มข้นกว่า แล้วผู้ผลิตทำไมไม่ทำเป็น full wave ครับ ทำไมต้องทำออกมาเป็น half wave ครับ มันจะมีผลเสียใช่มั้ยครับ  ???

อะไรที่เกี่ยวกับ 2100 fx มาโพสต์ กระทู้นี้ละกันครับ จะได้เป็นแหล่งรวม ไขข้อข้องใจ 2100 fx ;D

พินไดโอดผมเคยอ่านเจอ จะทำงานตัดต่อระหว่างภาคส่งกับภาครับ ที่ผู้ผลิตไม่นำรีเลย์มาใช้ คิดว่าเนื่องจากมันทำงานมีเสียง

อาจจะสร้างความรำคราญสำหรับท่านที่ไม่ชอบ การใช้พินไดโอดใช้พื้นที่น้อย แต่ข้อเสียก็มีนะครับ คือมันทนกำลังได้ไม่เยอะ

ถ้าเราไปเพิ่มกำลังส่ง 100 วัตต์ ขึ้นไป พินไดโอดตัวเดียวอายุอาจจะไม่ยืนครับ รีเลย์ทนได้ 100วัตต์ สบายๆ

ในเครื่องส่งทั่วไปที่เราใช้กัน จะเป็นพินไดโอดเกือบทั้งหมด แต่ใน Linear Amp ที่กำลังส่งสูงๆ ส่วนมากจะใช้รีเลย์

แม้แต่ยี่ห้อดังๆราคาแพงๆก็ใช้รีเลย์ครับ เพราะอะไร ทำไมถึงใช้รีเลย์ ผมก็ไม่ทราบครับ ต้องรอผู้รู้มาอธิบาย

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ
ถูกต้องที่สุดครับ ใช้สำหรับตัดต่อ ภาครับภาคส่ง เครื่องโมบาย 10w 50w pindiode ทนได้สบายๆสาเหตุที่ไม่ใช้รีเรย์เพราะ ราคาครับ ถ้าใส่รีเรย์ราคาจะสูงกว่า diode มาก วันนึงที่โรงงานผลิตวิทยุที่ผมเคยทำไม่ได้ผลิตวันละพันเครื่องครับวันนึงรวมๆแล้วเป็นหมื่อนเครื่องครับ ช่วงที่ฮอตที่สุดที่เคยเห็น วันละหมื่นเครื่องต่อหนึ่งสายการผลิตและมีสายการผลิตอยู่ เจ็ด สายการผลิต ลองคิดดูว่าถ้ารีเรย์แพงกว่า pindiode แค่บาทเดียวหนึงเดือนจะเป็นเงินเท่าไหร่
ส่วนในบูตที่แน่เลยที่ไม่ใช้ pindiode ประเด็นหลักเลยจะทำให้ภาครับด่อยลงครับขนาดใช้รีเรย์เป็นหน้าสัมผัสยังด่อยเลยถัาเป็น pindiode จะต้องมีอุปกรณ์ต่อร่วมอีกจะทำให้ลดทอนสัญญานลงมาก
เรื่องการเปลียนจาก pindiode มาเป็น รีเรย์ ถ้าทำแค่อย่างนี้อย่างเดียวนะยืนยันว่าไม่ได้เพิ่มกำลังส่งขึ้นมาซักเท่าไหร่ครับเทสง่ายๆลองจั้ม pindiode เลยครับแล้ววัดวัตต์ดูว่าเพิ่มขึ้นหรือป่าวอาจจะขึ้นมาซักนิดนึงเพราะตัว diode มีความต้านทานอยู่  อยากเสนอประสบการณ์ที่เคยผ่านมาให้ผู้ที่สนใจและผู้ที่มีพื้นฐานอยู่บ้างจะเข้าใจง่ายครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง

ถูกต้องครับ ที่ผมใส่ relay เพื่อให้ทนกับกำลัง watts ที่สูงขึ้นด้วย ส่วนที่ท่านว่าลองจั้มดูอย่าลืมตัดวงจรภาครับออกก่อนด้วยน่ะครับ
ส่วนจั้มแล้ววัตต์ที่ได้เพิ่มมาอีกแค่นิดเดียวครับ

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=729E_4C0DBFC2) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=729E_4C0DBFC2)
วงจรที่ผมแก้ไข บางจุดไม่มีในวงจร แต่ทำตามในรูปรับรองขึ้นมาอีกไม่น้อยครับ
 เดี๋ยวถ่ายรูปที่เปลียน PA เบอร์ใหม่มาให้ดูครับ

ท่าน gooroo 2100fx ผม ในรถก็เอาไปโมมา ออกพอประมาณ 7+  ความร้อนก็เพิ่มมานิดหน่อย  แต่ที่บ้านไม่ได้โมออกเดิมๆ มาอัดสายสัญญานแทน 4 ห่วง 10DFB ไป 16.2-3 ที่ฝาง  จาก ลำพูน  ไป 16.3-4 ที่ 8 ห่วง  อาริแอ๊ค 1/2   ไป 16.5 ที่ 8 ห่วง  อาริแอ๊ค 1/2   อันสุดท้ายนี้ถ้าใครเช็คสัญญาญกับผมจะรู้ว่าผมใช้เครื่องอะไร อิอิ  
หมายเหตุ ปลายทางใช้  4ห่วง สายน่าจะ rg8  เครื่อง แม็กซอน  (ขอความนี้เป็นเพียงประสบการณ์การใช้งานเฉพาะบุคคลอาจมีการคราดเคลื่อนไม่สามารถนำไปอาจอิงทางทฤษฎีได้)
ขอบคุณครับ

ไม่ต้องทำให้ยากหรอ เปลี่ยน PA ง่ายกว่าเยอะ แรงดี ทน แล้ว PA เน่าด้วย ตระกูล MRF... กลับบ้านเก่าแย้ว อิอิอิ


http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=3838.msg173618;topicseen#new

ก็นั่นไงอย่างที่ผมว่าไงมีการดัดแปลงชุด LPF ก็ตรงที่บอกว่าลองถ่างดู กับย้ายตำแหน่งนั่นแหละ
ส่วนตรง Resistor ที่บอกว่าเปลี่ยนใหม่ก็เป็นการไปแก้ไขการจำกัดกระแสซึ่งเอาแรงดันตกคร่อมไปทำอะไรบางอย่าง
เช่นลดกำลังส่งลงเพื่อให้ร้อนน้อยลง ถ้าอยากแรงก็ตัด รอยต่อ L18 กับ L19 ออกแล้วต่อจาก L18 ไปออกสายอากาศเลย
เพิ่มแน่นอนแต่เรื่องสัญญาณรบกวนผมไม่รู้ด้วยนะ ;D

รอชมครับ ท่านพี่ ;D

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=4CA2_4C175322) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=4CA2_4C175322)(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=3AE1_4C175322) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=3AE1_4C175322)(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=9A2D_4C175322) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=9A2D_4C175322)(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=3C00_4C175322) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=3C00_4C175322)
ภาพแรกเป็นวงจร
ภาพที่สองเป็นสัญญานก่อนเข้าวงจร
ภาพที่สามเป็นสัญญานจาก การต่อแบบเร็คติไฟ
ภาพที่สี่เป็นสัญญานจาก การต่อบแบบ พินไดโอด

เคปะ

อธิบายผ่านภาพ และการทดสอบด้วยเครื่องมือวัด ชัดเจนครับ ;D

ใส่เลยครับ RD70ผมใส่มาหลายเครื่องทนกว่าเห็นๆ 70สบายๆ (อั๋นรับประกันว่าออกเห็นๆ)พีเอก็ถูกกว่า1000นิดๆเอง ลองเหอะไม่เสียหาย..รับประกันว่าทุกท่านทำได้แน่นอน..(ส่วนอื่นๆไม่ต้องไปยุ่งกับมัน..ใส่แล้วกดดูวัตต์เลย..ถ้าไม่ออกให้ด่าเลยอะ..

อยากทำได้มั้งอะ บอกวิธีทำบ้างดิ อิอิ

ตามหารูปที่ใส่รีเลครับมาช้ารูปหาย

ตามดูไม่เห็นเหมือนกันอยากดู