เจ้า TH-2R ผมก็เดาเอาเหมือนกันครับ
ผมใช้แจ็คหูฟังโทรศัพท์โนเกียรุ่นเก่า ๆ ที่มี 4 ท่อนหรือ 4ชั้น มาทำ
1.ท่อนปลายสุด เป็น ลำโพง(Sp) ร่วมกับขา 3
2.ท่อนสอง เป็น ไมค์(Mic) ร่วมกับขา 3
3.ท่อนสาม เป็น กราว(GND)
4.ท่อนที่สีโคนสุด ไม่ได้ใช้
ส่วน PTT ใช้ R 2K ต่อระหว่างขา 2 กับขา 3
ส่วน UV-3R ดูจากวงจรที่ http://www.uv3r.com1.ขา 1 เป็น กราวน์
2.ขา 2 เป็น ลำโพง
3.ขา 3 เป็น Mic
4.ขา 4 เป็น PTT ต่อ R 1K ลงกราวน์ขา 1
วิธีการเดาขา1.ให้หาขากราวน์ก่อน โดยเอามิเตอร์ตั้งวัดช๊อต ให้เสียบปลั๊กเปล่าเข้าวิทยุ แล้วเอาสายมิเตอร์สายหนึ่งจิ้มที่ขั้วแบตลบ หรือตรงขั้วเสาตรงเกลียวก็ได้ ส่วนอีกสายไล่แตะขาแจ็ค มิเตอร์ขึ้นขาไหนหรือร้องปี๊บขาไหน ขานั้นมักเป็นกราวน์ ในที่นี้ผมเจอที่ขา 3
2.หาขา ลำโพง ให้หาลำโพงตัวเล็ก ๆ มาต่อขากราวน์ไว้ขาหนึ่ง กดปุ่ม MONI ที่วิทยุให้มีเสียงซ่าหรือปิด SQL ก็ได้ แล้วเอาสายลำโพงอีกสายที่เหลือไปไล่แตะขาแจ็คที่เหลือ ถ้าได้ยินเสียงซ่า ขานั้นก็เป็นลำโพง ในที่นี้ผมเจอที่ขา 1 ที่เหลือพอเดาได้ว่า น่าจะเป็นขา MIC และ PTT
3.หาขา PTT เอาสายไฟไล่ช๊อตขาที่เหลือลงกราวน์ ถ้ามัน TX ส่งออก ขานั้นเป็น PTT แน่ ๆ แต่ว่ามันอาจจะใช้ร่วมกับ MIC ก็ได้
4.หาขา MIC ให้กดส่ง(PTT)ที่วิทยุ แล้วเอาวิทยุอีกเครื่องมาฟังเสียง เอามือลองจิ้ม ๆ แตะ ๆ ขาที่เหลือดู ถ้าได้ยินเสียงตู๊ด ๆ แสดงว่าขานั้นเป็นขา MIC ถ้าขานี้ไปตรงกับขา PTT ที่เราพบในข้อ 3 แสดงว่ามันใช้ร่วมกัน ให้หา R สัก 2-3K มาต่อลงกราวน์ก็จะได้ขา PTT พร้อมกับขา MIC
ขอเสริมอีกนิด
สำหรับเครื่องจีน 2รุ่นข้างบนใช้ชิพ RDA1846 และเครื่องจีนรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาระยะหลังนี้ใช้ชิพนี้หมดเลย
ข้อเสียอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ "หูตึง" มันน่าจะใส่ LNA มาให้ซ๋ะหน่อย ถ้าเอามาใช้ทำ Tracker โดยไม่ฟังเสียงคนอื่น มันก็ชนกันกลางอากาศแล้วก็ตายคาที่กันกลางอากาศเหมือนเราคุยคีย์ซ้อนกันกลางอากาศคนรับฟังไม่รู้เรื่อง I-Gate ก็ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน