HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
19 เมษายน 2024, 10:03:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: สมาชิกคนเดียว อนุญาตให้มี1 acc ห้ามสมัครหลาย acc ไม่ว่าเพื่อการใดก็ตาม
หากมีการตรวจพบหรือมีผู้แจ้งให้ตรวจสอบ และตรวจสอบเจอ ถือว่าผิดกฎ มีโทษแบนยาว
หลังจากนั้นหากมีการรายงานหรือตรวจพบมีพฤติกรรมใช้หลาย acc ให้คุณ/ให้โทษ กับ ตนเอง/พวกพ้อง/ผู้อื่น หรืออำพรางนิติกรรมใดๆ มีโทษแบนถาวร
กรุณารักษากฎระเบียบประกาศนี้อย่างเคร่งครัดด้วยครับ
Google
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  


หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ค้นเรือนจำลำพูน พบยาบ้าและอาวุธจำนวนมาก( ชมภาพชุดหน้าสุดท้าย)  (อ่าน 17526 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 26 เมษายน 2012, 21:21:50 »

ช็อค! จนท.คุกเมืองคอนแฉนักโทษหญิงยอมเป็นเมียเก็บ แลกอำนวยความสะดวก

ขณะเดียวกันที่บรรดาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หรือผู้คุมเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราชหลายคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเริ่มกล้าออกมาเปิดเผยข้อมูลลับกับสื่อมวลชนมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายหนึ่งเปิดเผยว่า การค้ายาเสพติดในเรือนจำมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่เพิ่งมารุนแรงและทำกันเป็นขบวนการเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ยเจ้าหน้าที่บางกลุ่มเข้าไปเกี่ยวข้องและได้รับผลประโยชน์จำนวนมาก หลายคนมีบ้านหลังใหญ่ราคาหลายล้านบาท เปิดธุรกิจบังหน้าและฟอกเงินในรูปแบบต่าง ๆ ซื้อรถยนต์ราคาแพงหลายคัน มีที่ดินนับ 100 ไร่ เครือข่ายยาเสพติดจากเรือนจำจะมีบารมีและอิทธิพลมากทั้งในและนอกเรือนจำ  

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนหนึ่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เครียดอย่างหนัก เพราะตรวจสิ่งของที่ญาติ ๆ นำมาเยี่ยมนักโทษพบการลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำ ทำให้เมียของขาใหญ่ค้ายาเสพติดที่ต้องโทษจำคุกในเรือนจำโกรธแค้น ตามรังควาน ข่มขู่ฆ่าจนตัดสินใจขอย้ายตัวเองไปอยู่แผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจค้น แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ยอมให้ย้ายจึงยื่นหนังสือลาออก จนในที่สุดผู้บังคับบัญชาให้ย้ายไปประจำในแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจค้น ทำให้หมดกังวลได้หายใจทั่วท้องมาระยะหนึ่งแล้ว  

"ดีใจมากที่ทาง พล.ต.ต.รณพงษ์ บุกจู่โจมตรวจค้นกระชากหน้ากากที่แท้จริงของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชออกมาให้สาธารณชนได้รับรู้ และเชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ไขไม่ให้เรือนจำกลายเป็นกองบัญชาการหลักของขบวนการค้ายาเสพติดได้อย่างแน่นอน”เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนดังกล่าวระบุ
 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีกคนหนึ่งเปิดเผยว่า ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ หรือผู้คุมทุกคนที่มีสำนึกดีให้ช่วยกันออกมาให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.รณพงษ์ หรือเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่หาไม่ได้อีกแล้ว เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในเรือนจำมีทุกอย่างเหมือนข้างนอกเรือนจำ แม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้คุมบางคนกับนักโทษผู้หญิง นักโทษผู้หญิงกับนักโทษชาย

 

"ในปัจจุบันนักโทษผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่พ้นโทษไปแล้วแต่เป็นเมียน้อย เมียเก็บของเจ้าหน้าที่ผู้คุมบางคนก็มี และมีอีกหลายคนที่ลูกเมียของนักโทษยอมตกเป็นเมียน้อย เมียเก็บของเจ้าหน้าที่บางคน เพียงเพื่อให้ปฏิบัติหรืออำนวยความสะดวกให้กับสามีและพ่อที่เป็นนักโทษในเรือนจำ คนในกลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด"เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายนั้นระบุ  

อดีตนักโทษคนหนึ่งเปิดเผยว่า ถ้าจะตรวจสอบเจ้าหน้าที่เรือนจำหรือผู้คุมที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดนั้น แค่ตรวจสอบจากการเป็นอยู่ที่หรูหราผิดกับเจ้าหน้าที่หรือผู้คุมในระดับเดียวกัน บางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะมีทรัพย์สินรายละเกิน 10 ล้านบาท และมีทรัพย์สินประมาณ 5 ล้านอีกหลายคน ในส่วนของเครือข่ายนอกคุกที่ทำหน้าที่นำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้ามีไม่น้อยกว่า 500 คน โดยจะนัดแนะนำยาเสพติดไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ เช่น เสาไฟฟ้า หลักกิโลเมตร ต้นไม้ใหญ่ ในท่อระบายน้ำ
 

ด้านนายสุรพล แก้วภราดัย จะย้ายมารับตำแหน่งผู้บัญชาเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จะเดินทางไปนครศรีธรรมราชในวันที่27 เมษายน  ใช้เวลาเก็บข้าวของ 2 วัน จะเริ่มทำงานในวันที่30เมษายนนี้ โดยจะประชุมเจ้าหน้าที่และผู้คุมทั้งหมด พร้อมสะสางงานที่คั่งค้าง จากนั้นจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด ต้องทำให้ดีที่สุด คนไหนดีเราก็จะรักษาไว้ ส่วนคนไม่ดีก็ต้องว่ากันไปตามระเบียบ ยืนยันไม่หนักใจเพราะเป็นคนในพื้นที่ ทุกอย่างจะทำไปตามหน้าที่ที่พึงปฎิบัติ"นายสุรพลกล่าว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 พฤษภาคม 2012, 19:57:34 โดย สายน้ำ » บันทึกการเข้า

<<เครือข่ายผู้พิทักษ์กิจการวิทยุสมัครเล่นไทย>>
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #10 เมื่อ: 26 เมษายน 2012, 21:21:50 »

พื้นที่โฆษณา ขาย เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ CTEK จาก สวีเดน ดีที่สุด/ถูกที่สุด+ประกัน5ปี
คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ
http://www.spy-thai.com/


GPS ติดตามรถหาย ดักฟังเสียงสนทนาในรถ หรือระบุตำแหน่งรถ สั่งดับเครื่อง
ติดตามรถได้ทั่วไทยโดยไม่มีค่าบริการรายเดือน / Tel. 086-9455977
 บันทึกการเข้า
beem300
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 160



« ตอบ #11 เมื่อ: 28 เมษายน 2012, 17:38:59 »

 ตกใจ ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
« ตอบ #11 เมื่อ: 28 เมษายน 2012, 17:38:59 »

 บันทึกการเข้า
TheHusker
ผู้เช่าพื้นที่โฆษณา
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3859


No Warning!


« ตอบ #12 เมื่อ: 28 เมษายน 2012, 18:26:02 »

มันน่าจะจับไปขังบนเกาะที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ.
บันทึกการเข้า


************************************************************
ติดต่อทาง PM / o 8 3 - 2 9 5 - 8 6 8 6
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 29 เมษายน 2012, 15:55:13 »

ตรวจมือถือจากคุกนครฯพบคลิปเสพยาโจ๋งครึ่ม



เมื่อวันที่ 29 เม.ย. พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ยังคงให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือที่ตรวจยึดได้จากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งมีคลิปของนักโทษกำลังเสพยาเสพติด โดยเฉพาะคลิปที่ถ่ายในเรือนนอนแดน 5 แดน 6 มีภาพของนักโทษจำนวนมากต่างนำโทรศัพท์มือถือออกมาโทรออกไปภายนอกเรือนจำ รวมทั้งนักโทษบางกลุ่มตั้งวงเสพยาเสพติดอย่างโจ่งแจ้งโดยเฉพาะการเสพยาไอซ์ผ่านอุปกรณ์การเสพที่ดัดแปลงจากขวดน้ำและมีการผลัดเปลี่ยนหมุนวันกันเสพ ขณะที่บางกลุ่มตั้งวงเล่นการพนันกันโดยอิสระ

พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีฯซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชกล่าวว่า ความคืบหน้าในการดำเนินการในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแกะข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของนักโทษซึ่งการแกะข้อมูลนั้นจะทำเฉพาะที่ทราบเจ้าของโทรศัพท์ชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 กว่าเครื่อง ซึ่งกำลังดำเนินอยู่

"ภาพถ่ายและคลิปส่วนใหญ่ที่พบในโทรศัพท์ เป็นการเสพยา รวมทั้งภาพยาเสพติดที่พร้อมขายและภาพอาวุธปืนสงคราม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการค้าอาวุธปืนสงครามด้วย ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแกะข้อมูลจากตรงนี้เพื่อที่จะขยายผลว่าไปเชื่อมโยงกับใครจะได้ดำเนินคดีหลักได้ต่อไปโดยขณะนี้การตรวจสอบคืบหน้าไปแล้วกว่า20%"พ.ต.อ.ญาณพัฒน์กล่าว
บันทึกการเข้า
E22PTH
Sr. Member
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 343



« ตอบ #14 เมื่อ: 29 เมษายน 2012, 16:11:34 »

ผมถึงว่า     คนที่พ้นโทษ ออกมา  อยากกลับเข้าไปใหม่... เหตุนี้เอง
บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2012, 09:31:25 »

มากจริงๆ เจออีก 39 เครื่องมือถือคุกนครศรีฯ ซุกในอิฐบล็อก

เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชคนใหม่ เดินทางเข้าเรือนจำกลาง โดยเข้าไปในแดนนักโทษตั้งแต่ 07.00 น. ไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวแต่อย่างใด ภายหลังเคารพธงชาติได้มีการเรียกประชุม ผู้บังคับหน่วย ผู้คุม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมดูแลนักโทษ เพื่อมอบนโยบายในการทำงาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด รวมถึงสอบถามความเป็นอยู่และความต้องการ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเครื่องมือ และอาคารสถานที่ที่ เหมาะสม พร้อมให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปฏิบัติงาน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพลได้ตั้งกรรมการจำนวน 3 ชุด เพื่อตรวจสอบและลงโทษเจ้าหน้าที่เรือนจำและนักโทษ ที่กระทำผิดหลังการตรวจค้นวันที่ 22 เมษายน โดยเฉพาะนักโทษ หากพบว่ามีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และนำโทรศัพท์เข้ามาในเรือนจำ ก็จะถูกลดชั้นอย่างน้อย 2 ชั้น โดยทั่วไประดับชั้นนักโทษจะมีด้วยกัน 6 ชั้น คือ ชั้นเยี่ยม ดีมาก ดี กลาง เลว และ เลวมาก

 

นายสุรพลได้เปิดเผยว่า ล่าสุด สามารถตรวจพบโทรศัพท์ จำนวน 39 เครื่อง ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในก้อนอิฐบล็อก จำนวน 3 ก้อน มีการหล่อปิดทับไว้เป็นอย่างดี โดยอิฐบล็อกดังกล่าวทางเรือนจำได้สั่งนำเข้ามาเพื่อก่อสร้างถนนภายในเรือนจำ ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว และจะทำการขยายผลต่อ โดยการตรวจสอบร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่จำหน่ายอิฐบล็อกดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบที่มาของโทรศัพท์ ที่มีผู้โยนเข้าไปในเรือนจำล่าสุด จำนวน 6 เครื่อง แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ด้วย 
         
"เย็นวันที่ 29 เมษายน ผมได้เข้าไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่อย่างไม่เป็นทางการ และได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า สามารถยึดโทรศัพท์ได้อีก 5 เครื่อง จากภาพวงจรปิดที่เห็นนักโทษชายกำลังแอบคุยโทรศัพท์ จึงได้เข้าควบคุมตัว และตรวจค้นจึงพบโทรศัพท์"

 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ทางผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบการเข้า-ออกภายในเรือนจำของเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้นไม่ยกเว้นแม้แต่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช รวมถึง การตรวจสอบเจ้าหน้าที่ประจำห้องควบคุมกล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งไว้ในเรือนจำทุกแดน 139 ตัว คอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมนักโทษ ในส่วนของญาตินักโทษได้ประกาศห้ามไม่ให้นำ สิ่งของเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด ยกเว้นเงินที่เจ้าหน้าที่จะทำการขึ้นบัญชีไว้และจะส่งมอบให้นักโทษต่อไป

 
บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2012, 21:08:11 »

สั่งตั้งกก.สอบผู้คุม'กินตรวน'นักโทษคุกนครฯ


ราชทัณฑ์สั่งตั้งกก.สอบข้อเท็จจริงผู้คุม 'กินตรวน' นักโทษคุกนครฯ พร้อมเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่แจ้งเบาะแส อีกทั้งพบเครือข่ายยาเสพติดคุกนครฯ 1 ราย มีเงินหมุนเวียนนับ100 ล.
                4 พ.ค.55 พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ให้การรับสารภาพว่า มีการจ่ายเงินค่าถอดตรวน ให้กับผู้ต้องขัง 3,000 - 5,000 บาท หรือที่เรียกกันว่า “กินตรวน” ว่า ตนได้สั่งการให้นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชให้ประสานข้อมูลด้านการข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงจากส่วนกลางด้วยการมอบหมายให้นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานสอบ อย่างไรก็ตาม หากตำรวจพบข้อมูลเจ้าหน้าที่เรือนจำรายใด เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือทุจริตประพฤติมิชอบ เรียกรับเงินจากอำนาจหน้าที่ ก็สามารถดำเนินคดีอาญาได้ทันที ส่วนกรมราชทัณฑ์จะเอาผิดทางวินัย

 
                "ขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ได้เปิดเรือนจำทุกแห่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมตรวจสอบ กวาดล้างสิ่งที่ไม่ดี เพื่อให้เป็นเรือนจำสีขาว ดังนั้นอะไรที่คิดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องขอให้ช่วยกันขจัดปัญหา และอยากให้ประชาชนมองเรือนจำในอีกมิติ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่จะเริ่มต้นแก้ไขปัญหาต่างๆที่ถูกซุกไว้ใต้พรม ให้เรือนจำปลอดจากยาเสพติดให้ได้" พ.ต.อ.สุชาติ กล่าว
พบเครือข่ายยาเสพติดคุกนครฯ 1 ราย มีเงินหมุนเวียนนับ100 ล.
                 การสืบสวนสอบสวนเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นมากยิ่งขึ้นตามลำดับส่งผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดได้รับผลกระทบอย่างหนักการติดต่อซื้อขายมีปัญหา ยังคงมีการสั่งซื้อได้ในเรือนจำที่ยังคงหลงเหลือเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
                ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้บินด่วนไปยังรัฐสภาเนื่องจากคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดวุฒิสภาได้มีหนังสือด่วนที่สุดเชิญให้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อให้ข้อมูลความรู้และเทคนิคในการทำงานปราบปรามยาเสพติดเพื่อเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ขณะเดียวกันได้ประสานงานเพื่อซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูงชนิดหนึ่งพร้อมทั้งซอฟแวร์ในการกู้ข้อมูล ถอดข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูล ในการติดต่อสื่อสารผ่านอุปกรณ์ต่างๆทั้งระบบมาใช้ที่นครศรีธรรมราชเป็นแห่งแรก โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก ปปส.
                ขณะที่ พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าขณะนี้ตำรวจได้รายงานถึงการค้นพบโทรศัพท์มือถือซึ่งส่งมาเป็นของกลางในการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น โดยได้จากการปฏิบัติการของทางเรือนจำเองหลายสิบเครื่อง ในส่วนนี้มีทั้งเครื่องใหม่ที่เพิ่งส่งเข้าไป และเครื่องเก่าที่มีการใช้งานแล้วเจ้าหน้าที่จะทำการสุ่มตรวจสอบข้อมูลในกลุ่มของการสั่งซื้อยาเสพติดมาสนับสนุนข้อมูลที่เรามีอยู่แล้วว่าเชื่อมโยงกันอย่างไร
                รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า การดำเนินคดีกับนักโทษพนักงานสอบสวนได้เริ่มเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับนักโทษที่เรารู้ตัว มีรายชื่อ มีของกลางที่ยึดได้ทั้งยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ สิ่งของต้องห้ามในเรือนจำซึ่งต้องใช้เวลาอีกราวประมาณ 20 วันพนักงานสอบสวนทุกนายทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และหากมีไม่พอจะเรียกพนักงานสอบสวนเข้าเสริมในการสอบสวนอีก ส่วนข้อมูลที่เราได้ถอดออกมาจากเอกสารต่างๆเสร็จแล้วจัดระเบียบเรียบร้อยแล้วอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ ส่วนจากระบบมือถือจนมาถึงวันที่ 4 พ.ค.55 เสร็จไปแล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็น พบว่า ข้อมูลมีความเชื่อมโยงมาก แต่ยังไม่ได้วิเคราะห์ถึงประมาณการวงเงินในเครือข่าย สิ่งที่พบคือทุกคนไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องในวงจร จะใช้ชื่อคนอื่นเข้าไปเป็นตัวแทนทั้งหมด ส่วนของต้องห้ามที่เหลือในขณะนี้เชื่อว่ามีอยู่อีกและเป็นของเก่าที่เราค้นไม่พบ               
                “หลังจากนี้การทวงถามติดตามหนี้สินค่ายาเสพติดกำลังเริ่มขึ้น การติดตามเงินนั้นจะใช้บุคคลหรือญาติมาเยี่ยม ซึ่งตำรวจกำลังติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะข้อมูลบัญชีผู้ที่เข้ามาเยี่ยมนักโทษในกลุ่มเป้าหมายเป็นใครอย่างไร การขยายผลข้อมูลในเครือข่ายเป็นเรื่องที่ต้องละเอียด บางรายที่เราเชื่อว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่แต่เมื่อตรวจสอบกลับกลายเป็นรายย่อย มีอยู่หนึ่งรายที่เดิมเป็นรายเล็กๆของกลางที่ได้เล็กน้อยแต่เมื่อสืบสวนต่อไปพบว่ารายนี้มีเครือข่ายมีเงินหมุนเวียนนับร้อยๆล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบเช่นนี้เราจะใช้ พรบ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเข้าไปเกี่ยวจับ” รอง ผบก.นครศรีธรรมราชกล่าว
                ด้านนายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อประชุมกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 4 พ.ค.นี้ เพื่อรายงานสถานการณ์ทั้งหมด รวมทั้งเรื่องอัตรากำลังพล การเตรียมการโยกย้าย และการเสนอข้อมูลเพื่อนำไปสู่การสอบสวนเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ทั้งระบบโดยเฉพาะข้อมูลที่ได้จากการเปิดเผยของหลายฝ่ายรวมไปถึงอดีตนักโทษที่พ้นโทษไปแล้วที่ยังคงเป็นเป้าหมายในการสืบสวนเชื่อมโยงกับเรือนจำ โดยก่อนเดินทางนั้นได้มีการสั่งการห้ามนำสิ่งของ อาหารทุกชนิดจากนอกเรือนจำเข้าไปในเรือนจำโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาหารนั้นเรือนจำจัดเลี้ยงอยู่แล้ว และหากมีความจำเป็นต้องนำเข้าเรือนจำจะเป็นฝ่ายจัดหาเอง
                เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าหลังจากที่ปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นส่งผลให้ยาเสพติดในเรือนจำลดลงอย่างมาก เนื่องจากนักโทษที่ติดยาเสพติดและยังเป็นผู้ค้าต้องเสพทุกวัน ทำให้ราคายาเสพติดในเรือนจำขณะนี้สูงมากราคาจะสูงกว่าภายนอกหลายเท่าตัว เช่นยาบ้าในขณะนี้มีราคาสูงถึงเม็ดละ 7,000 บาท  ในขณะที่ราคาขายในวงการค้ายาภายนอกขายส่งเม็ดละ 300 บาท ขายปลีกเม็ดละ 400-450 บาท ยาไอซ์ภายในเรือนจำขณะนี้จะเรียกเป็นจีเท่ากับ 0.10 กรัม าคาประมาณ 4 หมื่นบาท หรือร้อยกรัมต่อ 4 แสนบาท กิโลกรัมละกว่า 4 ล้านบาท 1 จีหรือ 0.10 กรัมจะเสพได้ราว 10 ครั้ง หากนักโทษด้วยกันมาซื้อต่อการเสพ 1 ครั้ง จะขายในราคา 1.5 หมื่นบาทต่อครั้ง ราคาขยับขึ้นมากเนื่องจากไม่มีของส่งเพิ่มเข้าไปในเรือนจำได้ โทรศัพท์ต่อเครื่องขณะนี้สูงกว่า 4 แสนบาท ส่วนใหญ่นักโทษที่ติดยาเสพติดจะเป็นผู้ค้าด้วยดังนั้นจึงกล้าทุ่มเงินไม่อั้น เพราะการสั่งซื้อขายยาเสพติดรายใหญ่หนึ่งครั้ง ค่าโทรศัพท์มือถือ 4 แสนบาท ถือเป็นเรื่องเล็กมาก
                “ยาเสพติดในเรือนจำกำลังขาดแคลนขณะที่กลุ่มผู้ค้าภายนอกในเป้าหมายสำคัญเช่น องพรหมคีรี อ.เมือง และใกล้เคียง กลุ่มคนเป้าหมายเงียบเชียบอย่างเหลือเชื่อ เงียบมากชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงอยู่ภายนอกโดยพบว่ามีขบวนการทวงหนี้ยาเสพติดกันแล้ว ซึ่งจากการสืบสวนมือปืนชื่อดังที่ถูกเหยื่อยิงสวนเสียชีวิตนั้นพบว่าเป็นขบวนการทวงหนี้ในวงการนี้ ซึ่งขณะนี้เราได้ข้อมูลส่วนนี้ไปมากขบวนการทวงหนี้จะติดตามค่ายาเสพติดภายนอกหลังจากนั้นหากไม่ได้เงินตามนัดหมายจะถึงขั้นยิงถล่มกันจะเห็นได้หลังจากนี้บ่อยครั้งขึ้น” เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรายนี้กล่าว
บันทึกการเข้า
lord_oan
Full Member
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #17 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2012, 21:16:23 »

ผมขอถามสักหน่อยว่าคุกไหนสะอาดทุกต้องทุกอย่างตามกฏหมายบ้าง
บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2012, 12:22:19 »


ผู้ใหญ่สัมฤทธิ์ พงศ์พรหม

นายสัมฤทธิ์ พงศ์พรหม อายุ 52 ปี หรือผู้ใหญ่หมิด อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่  6  ต.นาสาร 2สมัย อ.พระพรหม  จ.นครศรีธรรมราช ที่ตกเป็น 1 ในเป้าหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรณีถูกกล่าวหาโยงใยเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด โดยเฉพาะการส่งโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำ ซึ่งถูกตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นเมื่อ 2 วันก่อน ให้สัมภาษณ์แถลงเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังนำผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจร่องรอยการจุดไฟเผากองขยะหลังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ที่เป็นทางยาว  4  จุด ตลอดแนวกำแพงด้านหลังรวมพื้นที่เกือบ 1 ไร่  ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนพัวพันมาถึงตนนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการขว้างปาโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเลย และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตำรวจอย่างเต็มที่ มองว่าข้อมูลของตำรวจที่มีอยู่ในขณะนี้ยังเป็นแค่ข้อมูลพื้นฐานส่วนน้อย แค่น้ำจิ้มยังไม่ลึกจนถึงตัวการใหญ่จริง ๆ
 
“อยากให้ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ส่งคนที่ไว้วางใจได้สักคนสองคนเข้าไปฝังตัวในพื้นที่ เพื่อสืบสวนหาข่าวที่แท้จริง ว่าบุคคลในเครือข่ายของจริงนั้นเป็นใครบ้าง ยืนยันว่าบุคคลเป้าหมายในมือของตำรวจทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ และบุคคลภายนอกเป็นผู้บริสุทธิ์ถูกเหมารวมไปด้วยหลายคนรวมทั้งผมด้วย ในขณะที่คนที่เกี่ยวข้องจริง ๆ ยังลอยนวลอยู่  จึงขอให้ท่านผู้การ และผู้ว่านครศรีธรรมราช พิจารณาจากสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่ให้ดี ๆ เพราะพื้นที่ดังกล่าวที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนตรวจตราอย่างต่อเนื่อง หากเป็นบุคคลภายนอกจริง ๆ จะเข้าไปขว้างปาโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำได้ยากมาก”
 
ที่ผมโดนไปด้วยคงเป็นเพราะความขัดแย้งในการเมืองท้องถิ่น ที่แบ่งแยกออกเป็น  2  ฝัก  2 ฝ่าย และเกรงว่าจะขยับจาก ส.อบต.ไปส่งสมัคร ส.อบจ.ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้  ฝ่ายการเมืองตรงข้ามจึงร่วมกันทำลายทุกวิถีทาง ทั้ง ๆ ที่กลุ่มคนเหล่านี้ต่างก็เป็นตัวการที่มีผลประโยชน์อยู่กับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ  มีทั้งนักการเมือง ผู้นำท้องถิ่น ฝ่ายปกครองและตำรวจบางคนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น ขอให้ไปสอบถามชาวบ้านทั้ง ต.นาสาร ได้เลยชาวบ้านเขารู้กันเป็นอย่างดีว่าใครเป็นใคร ใครบ้างที่ร่วมอยู่ในขบวนการค้ายาและขว้างปาโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำ
มีครั้งหนึ่งตำรวจนายหนึ่งของ สภ.พระพรหม นำโทรศัพท์มือถือ 10  เครื่อง มาให้ผม บอกว่าให้ช่วยส่งเข้าไปในเรือนจำให้หน่อย แต่ปฏิเสธและยืนยันว่า แม้จะรู้จักกับเจ้าหน้าที่หลายคน แต่ไม่เคยทำในเรื่องอย่างนี้ ตำรวจคนดังกล่าวจึงนำโทรศัพท์ทั้งหมดกลับไป


ด้านหลังกำแพงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

“มีผู้คุมอยู่จำนวนหนึ่งที่กลุ่มค้ายาเสพติดพยายามจะชักชวนชักนำให้เข้าร่วมขบวนการ แต่เขาปฏิเสธไม่ยอมเข้าร่วมกลุ่มด้วย โดยเฉพาะในคืนหนึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผู้นำท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จำนวนหนึ่งนัดพบกันใต้แทงค์น้ำประปาของเรือนจำ และมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่เรือนจำ 3  แสนบาทเพื่อให้นำโทรศัพท์หลายสิบเครื่องเข้าไปในเรือนจำ”
 
ขบวนการทั้งหมดหากไม่มีเจ้าหน้าที่ภายใน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องภายนอกบางกลุ่มบางคน เข้าไปมีส่วนรู้เห็นเป็นใจและรับผลประโยชน์ รับรองได้เลยว่ายาเสพติดโทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามเล็ดลอดเข้าไปในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชได้ยากมาก  แค่เรื่องรถเก็บขยะของ อบต.นาสาร ที่เข้าไปเก็บขยะจากในเรือนจำ ในตอนกลางคืนรถจอดอยู่ที่ อบต.นาสาร โดยไม่มีคนเฝ้า ขบวนการค้ายาเสพติดนำโทรศัพท์ครั้งละไม่น้อยกว่า 50 เครื่อง ไปซ่อนไว้ในรถเก็บขยะ เมื่อถึงเวลาที่คนขับและคนเก็บขยะนำรถเข้าไปเก็บขยะในเรือนจำก็ไม่รู้ว่ามีการแอบซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ในรถเก็บขยะแล้วก็ขับรถเข้าไปเก็บขยะ ซึ่งการตรวจตรารถเก็บขยะเข้าเรือนจำก็ตรวจแบบขอไปที โทรศัพท์มือถือจึงหลุดเข้าไปในเรือนจำครั้งละมากๆได้อย่างสบาย
 
“ ที่สำคัญการนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำไม่ว่าจะเป็นการขว้างปาข้ามกำแพง หรือเข้าทางประตูหน้า ส่วนใหญ่ไม่ใช่ครั้งละ 3-4 เครื่อง แต่ครั้งละหลายสิบเครื่อง เหตุผลเพราะในแต่ละครั้งต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่บางกลุ่มบางคน 3-5 แสนบาท หากนำเข้าแค่  3-4 เครื่องไม่คุ้ม  ผมพร้อมที่จะเข้าพบ พล.ต.ต.รณพงษ์ เพื่อชี้แจงให้ข้อมูลทั้งหมด”ผู้ใหญ่สัมฤทธิ์ระบุ

บันทึกการเข้า
สายน้ำ
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3163


5AC1**ARES** OF THAILAND


เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 17 พฤษภาคม 2012, 10:18:39 »


บันทึกการเข้า
HAMSIAM.COM # NO.1 HAM COMMUNITY OF THAILAND
   

พื้นที่โฆษณา ไฟฉายแรงๆ /วิทยุสื่อสาร /กล้องแอบถ่าย /เครื่องดักฟัง /GPS ติดตามรถหาย ระบุตำแหน่ง ผ่านดาวเทียม
คลิ้กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างเลยครับ
http://www.spy-thai.com/


GPS ติดตามรถหาย ดักฟังเสียงสนทนาในรถ หรือระบุตำแหน่งรถ สั่งดับเครื่อง
ติดตามรถได้ทั่วไทยโดยไม่มีค่าบริการรายเดือน / Tel. 086-9455977
 บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
  พิมพ์  


 
กระโดดไป:  

ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�
ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ� ŧ��ɳ�


Webmaster Earn Money! By Affiliate Program 100% Pay
www.samuismile.com

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF | SMF © 2006-2009, Simple Machines
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!