แล้วผลยังไงครับ บอกไม่หมด
ครับ ผมยกบางส่วนมาให้ดูว่า เวลาคนที่ใช้วิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกจับกุมดำเนินคดี และถูกส่งตัวฟ้องศาล
ศาลท่านจะลงความเห็นว่าผิดอย่างไร
คดีนี้จำเลยถูกแจ้งข้อหา มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ครอบครองไม้สักโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาบ้าในครอบครอง และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
รายละเอียดลองไปศึกษาจากฎีกาดูนะครับ
http://www.deka2007.supremecourt.or.th/deka/web/search.jsp ใส่เลขคำพิพากษา แล้วค้นหาได้เลย
ในความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 จำเลยรับสารภาพ และถูกศาลชั้นต้นพิพากษาดังนี้
....ฐานมีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตปรับ 2,000 บาท ฐานใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตปรับ 2,000 บาท รวมจำคุก 30 ปี 9 เดือนและปรับ 10,000 บาท....
ศาลอุธรณ์ แก้เป็น
.....ความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตเพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ปรับ6,000 บาท....
ศาลฎีกา ยกคำร้องในความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ให้ลงโทษจำเลยตามที่ศาลอุธรณ์ตัดสิน
ตกลง ฎีกายกหรือยืนตามอุธรณ์ครับ ความผิดตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม อ่านแล้วงงผมอาจจะใช้คำผิดนิดนึง
ความผิด พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ศาลฎีกาตัดสินยืนตามอุทธรณ์ครับ
จำเลยในคดีนี้ ยื่นอุทธรณ์ และยื่นฎีกา ในทุกประเด็นข้อหาครับ
มาดูฎีกาในส่วนของความผิด พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 นะครับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในปัญหาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ ปัญหานี้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ฟังข้อเท็จจริงว่า
จำเลยได้นำเครื่องวิทยุคมนาคมที่ใช้ติดตั้งในยานพาหนะซึ่งใช้การได้ไปติดตั้งไว้ภายในบ้านโดยเปิดสัญญาณไว้สำหรับฟังข้อความจากผู้ใช้วิทยุสื่อสาร แม้จำเลยจะเป็นอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของอำเภอบางระกำ แต่จำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมและไม่ได้รับยกเว้นใดๆ ตามกฎหมาย เห็นว่า แม้โจทก์จะไม่ได้ระบุมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ไว้ในคำขอท้ายคำฟ้องแต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องและได้ระบุมาตรา 23 อันเป็นบทกำหนดโทษของมาตรา 11 ไว้ในคำขอท้ายคำฟ้องแล้ว คำฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานนี้จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (6) พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคมพ.ศ.2498 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต และบทนิยามในมาตรา 4 ให้ความหมายคำว่า “สถานีวิทยุคมนาคม” หมายความว่า ที่ส่งวิทยุคมนาคม ที่รับวิทยุคมนาคม หรือที่ส่งและรับวิทยุคมนาคม และคำว่า “วิทยุคมนาคม” หมายความว่า การส่งหรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ภาพ และเสียงหรือการอื่นใดซึ่งสามารถเข้าใจความหมายได้ด้วยคลื่นแฮรตเซียน ดังนี้
เมื่อปรากฏว่าเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยติดตั้งไว้สามารถรับฟังข้อความจากผู้ใช้วิทยุสื่อสารได้ การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 แล้ว การต้องใช้คลื่นความถี่เท่าใดเป็นข้อกำหนดสำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานที่วิทยุคมนาคมในการใช้คลื่นความถี่ให้ถูกต้อง หาจำต้องเป็นการตั้งสถานีเครื่องรับส่งในระยะความถี่ไม่น้อยกว่า 25 วัตต์ มีขีดความสามารถรับส่งได้ในระยะทางไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร หรือต้องเป็นการติดต่อหรือประกาศแจ้งออกไปสู่บุคคล องค์กร หรือต่อประชาชนในการประกาศข่าวสาร ส่งหรือรับข่าวสารข้อความใดๆ ได้ชัดเจนดังที่จำเลยฎีกาไม่ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น