ยึดรถไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการยึดรถของสถาบันการเงินสัญชาติไทยรายใหญ่รายหนึ่ง ที่ให้เช่ารถยนต์กับลูกค้า แต่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจค้างชำระค่างวดรวม 3 งวด และยังไม่มีการบอกเลิกสัญญา
ปรากฏว่าบริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่ยึดรถเป็นชายฉกรรจ์ 2 – 3 คน เข้ามาดักรอที่ซอยเข้าบ้าน หลักจากนั้นได้เรียกให้ผู้เช่าชื้อลงจากรถและยึดรถไป โดยไม่มีการออกเอกสารการรับรถ พร้อมไม่แสดงตนว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน รวมทั้งได้ใช้กระดาษโน้ตขนาดเล็กเขียนข้อความให้นำเงินไปชำระจำนวนหลายรายการ
ผู้เช่าซื้อได้ร้องขอความเป็นธรรมว่า การยึดรถของสถาบันการเงินเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และจะเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างไรกับเรื่องนี้
ประเด็นว่ายึดรถชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 574 ผู้เช่าซื้อต้องผิดนัดไม่ให้ใช้เงินสองคราวติด ๆ กัน หรือกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ผู้ให้เช่าซื้อจึงจะสามารถบอกเลิกสัญญา และยึดรถกลับคืนมาได้ แต่ต่อมา สคบ.ได้ประกาศควบคุมสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์
ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า
การยึดรถผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อรวม 3 งวด และต้องค้างชำระติดต่อกันทั้งสามงวด หลักจากนั้นผู้ให้เช่าซื้อจะต้องบอกกล่าวล่วงหน้าอีก 1 เดือน จึงจะสามารถเข้าไปยึดรถกลับคืนมาได้ นอกจากนี้ในมาตรา 574 ยังได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า กาจะกลับเข้าครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อ จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อระยะเวลาใช้เงินได้พ้นกำหนดไปอีกงวดหนึ่ง ดังนั้น การยึดรถของสถาบันการเงินในครั้งนี้ จึงเป็นการยึดที่มิชอบด้วยกฎหมาย ผู้เช่าซื้อมีสิทธิฟ้องกลับได้ทันที และยังสามารถร้องเรียนได้ที่ สคบ.อีกทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เคยมีคำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่ 2677/2547 ระบุอย่างชัดเจนว่า เมื่อยังไม่ได้ให้เวลาพอสมควรให้ผู้เช่าซื้อชำระจำนวนเงินที่ค้างชำระ
ถึงแม้จะค้างชำระ 3 งวด ไม่ถือว่าผู้เช่าซื้อไม่ผิดสัญา “ไฟแนนซ์ไม่มีสิทธิยึดรถคืน” ถือว่าเป็นการยึดรถโดยละเมิด ทำให้สัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลง ไฟแนนซ์ต้องคืนเงินค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย แต่มีสิทธิเรียกค่าใช่ทรัพย์จากผู้เช่าซื้อ
คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า ถ้าไฟแนนซ์เข้ายึดรถก่อนครบ 4 งวด ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อ ผิดกฎหมายและประกาศของคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยายนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2543 บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2543 ข้อ 3 (4) บัญญัติว่าผู้ให้เช่าซื้อสามารถบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ในกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อรายงวด 3 งวดติด ๆ กัน และผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือบอกกล่าวผู้เช่าซื้อให้ใช้เงินรายงวดที่ค้างชำระนั้นภายในเวลาอย่างน้อย 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือและผู้เช่าซื้อละเลยเสีย ไม่ปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าว
ยกเว้น ผู้เช่าซื้อสมัครใจที่จะให้ยึดรถ และมีการทำบันทึกข้อตกลงอย่างชัดเจน สัญญาเช่าซื้อจึงสิ้นสุดลง การยึดรถที่ไม่แสดงตนว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่ออกใบรับรถ เป็นการใช้อำนาจที่ป่าเถื่อนและทำธุรกิจแบบขาดคุณธรรม เท่ากับเป็นการยึดรถไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ที่มา ทนายคลายทุกข์
www.decha.com