ทำไม สายนำสัญญาณถึงต้องมี B/U A/U หรือ C/U ต่อท้าย

[Hs5-XDD]

ทำไม สายนำสัญญาณถึงต้องมี B/U A/U หรือ C/U
วันนี้ผมมีความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากครับ หลังจากซ่อมมั่วๆ ไปหลายกระทู้
สายนำสัญญาณที่เราๆ ท่านๆใช้กันอยู่ทุกวันนี้
หลายท่านก็รู้ความหมาย ( รู้เยอะก็ช่วยเติมเต็มให้ผมหน่อย )
หลายท่านก็ยังไม่รู้ความหมาย ( ผมจะเล่นให้ฟังคร่าวๆ นะ )

สายนำสัญญาณหรือสาย โคแอคเชียล Coaxial Cable จะมีองค์ประกอบคร่าวๆ 4 ส่วน คือ
1.Conductor (แกนกลาง) เป็นตัวนำสัญญาณ หรือบางแหล่งก็เรียกอินเนอร์
2.Insulator (ฉนวนหุ้มแกนกลาง) บางชนิดทำจากโฟม บางชนิดก็เป็นยางที่เขาเรียกว่า โพลิเอธิลีน (PE)
3.Shield  (เป็นชีลถัก ทำจากทองแดง หรือทองแดงชุบฯ) ส่วนนี้สำคัญเพราะมันจะป้องกันสัญาณผ่ออกมาข้างนอก และป้องกันสัญญาณจากข้างนอกไปรบกวนด้านใน
4.jacket เป็นเปลือกหุ้มด้านนาอกสุดครับ มีทั้งแบบ PVC และ PE ที่จมน้ำได้


สายพวกนี้ที่เห็นๆอยู่บ้านเราหรือเว็บ HAMSIAM ขายกันจะอิงอยู่ 2 มาตรฐานการผลิตคือ
1.Mil-C-17 เป็นมาตรฐาน ของอเมริกา
ในการผลิตสาย RG ซึ่งเริ่มมาจากกิจการทางด้านทหาร ตั้งแต่ปี 1930สาย RG นั้นมีหลายรุ่นเช่น RG8  RG58C-U RG6/U และมีความหมายต่างๆดังนี้
RG คือ Radio Guide หมายถึงท่อนำคลื่น
58 คือ Number Assigned เป็นตัวเลขแสดงเบอร์สาย เช่น RG8  RG58
C คือ Revision Designed เป็นรุ่นที่ปรับปรุงขึ้นจะมีเลขกำกับเช่น A B หรือ C
/U คือ Universal หมายถึงการใช้งานทั่วไป


2.JisnC3501 เป็นมาตรฐานของญี่ปุ่นครับ
ซึ่งเกิดจากอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เริ่มต้นสร้างขึ้นมาหลังสงครามโลกครั้งที่2 ในปี 1945-1949 ใช้ชื่อว่า Japanese Industrial Standard (JIS)
ผลิตสายที่ชื่อว่า 3C-2V  7C-2v ฯลฯ
V = Single Braided Outer Conductor และ Dual Braided Outer Conductor เป็นลักษณะของเปลือกหุ้ม และใส้ข้างใน
เช่น E=ทองแดง
N= ชีลล + ไนล่อน  หรือ ซีลทองแดง + PVC
W = ชีลลทองแดง 2 ชั้น + PVC
2 = Solid PE dielectric Core คือวัสดุที่ใช้ทำไดอิเลคตริก เช่น F คือ โฟม PE คือโพลิเอธิลีน
C = อิมพิแดน (C=75 Ohm  D= 50 Ohm)
3 = Approx ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางภายนอกครับ