ใช่ครับ มีหลายเรื่องที่ดีขึ้น เช่นให้สถานศึกษาจัดสอบได้ มีสอบขั้นกลางบ่อยขึ้น
แต่บางเรื่องจะเป็นปัญหามากในทางเทคนิค เช่น จัดให้ repeater ความถี่รับ-ส่งห่างกันแค่ 400 kHz และทีแรกดูเหมือนว่าจะขยายความถี่ออกไป 0.5 MHz (144-146.5) แต่ถ้าดูดีๆ มันจะถูกแบ่งไปเป็น EME และ SSB เสียมากทีเดียว เหลือเป็นช่องเดิมๆ น้อยลงกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ผมเห็นด้วยที่ต้องมี EME และ SSB แต่ไม่น่าจะมากมายขนาดนั้น
Mode CW/EME ได้ช่วงความถี่ใช้งาน (ความกว้างของแถบความถี่ที่ใช้ได้) จำนวน 100kHz
Mode SSB/EME ได้ช่วงความถี่ใช้งาน (ความกว้างของแถบความถี่ที่ใช้ได้) จำนวน 200kHz
Mode อื่นๆ เช่น Digital/Packet Radio/SSTV/PSK31/APRS/Beacon ได้ช่วงความถี่ใช้งาน จำนวน 200kHz
Mode FM ที่ไว้คุยกัน ได้ช่วงความถี่ใช้งานตั้งแต่ 144.500-146.500 ได้ช่วงความถี่ใช้งาน 2000kHz (2MHz)
สัดส่วนมันก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย เมื่อเทียบกันแล้ว จะว่าไปน้อยไปด้วยซ้ำนะกับ 300kHz
ผมก็ชื่อว่าหลายๆ คงก็คงทราบดีกว่า SSB/CW มันกินแถบความถี่ต่อ 1 คู่ QSO น้อยกว่า FM มาก
แถบความถี่ที่ได้แค่ 300kHz นั้นสามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันได้มากมาย มากกว่า 40 ช่อง หรือ 40 คู่สนทนา
โดยไม่รบกวนกัน เป็นการใช้ความถี่ได้คุ้มค่ามากกว่า FM เสียด้วยซ้ำ ยิ่งไทยเรามีจำนวนนักวิทยุสมัครเล่นมากมาย
เกินขนาดของแถบความถี่จะรับไหว ยิ่งควรจะสนับสนุนให้หันมาใช้งาน SSB กันให้มากๆ ถึงแม้ว่าเสียงมันจะไม่ได้
ชัดแจ๋วเหมือน FM ก็ตามที
เป็นข้อมูลอีกฝั่งให้คนอื่นพิจารณา