กสทช.เขต 7 เอาจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรถโมบายตรวจจับวิทยุเถื่อน

[hs6xey]

กสทช.เขต 7 เอาจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรถโมบายตรวจจับวิทยุเถื่อน นายศักดิ์ศรี ว่องไว ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช. ) เขต 7 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงที่มีปัญหาขัดแย้งทางการเมือง โดย กสทช. เขต 7 ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่รับผิดชอบจังหวัดนครราชสีมา,ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ ได้จัดส่งบุคลากรที่เชี่ยวชาญตรวจจับหาคลื่นความถี่ทุกประเภท หรือความถี่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เนื่องจากมีการนำเอาวิทยุสื่อสาร ไปใช่แบบผิดประเภท แอบฟังความถี่ราชการ นำไปประกอบเหตุร่วมกับการก่ออาชญากรรม พกพาไปในที่ต่างๆแบบเปิดเผยผิดจรรยาบรรณ เปิดเสียงดังในที่สาธารณะอันก่อให้เกิดความรบกวน แก่ผู้พบเห็น ตั้งสถานีโดยไม่รับอนุญาต ทั้งในที่อยู่อาศัยและในรถยนต์ จริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรถโมบาย คันละ 13 ล้านบาท ตรวจจับวิทยุเถื่อน และจะมีการตั้งด่านตรวจร่วม เน้นรถเป้าหมาย ในส่วนของอาสาสมัครอยากจะให้ทำให้ถูกต้อง เช่นใช้วิทยุสื่อสารที่ กสทชอนุญาตเท่านั้น ตามความถี่ประชาชน ในส่วนของการสื่อสารในหน่วยงานราชการแล้วจะมีแต่แม่ค่ายเท่านั้นที่ กสทช อนุญาต เพื่อเป็นการควบคุมวิทยุเถื่อนระบาด พร้อมจะออกตรวจจับตามร้านค้าที่นำมาจำหน่าย ของนักวิทยุสมัครเล่น ให้รณรงค์กันใช้ความถี่ที่กำหนด ไม่ใช่สอบแล้ว นำไปใช้ในความถี่อื่น เมื่อตรวจสอบพบต้องดำเนินคดีทันที่ ถือว่าท่านรู้เรื่องของกฏหมายดีกว่าคนไม่รู้ รบกวนก่อกวน ใช้วาจาไม่สุภาพ แย่งความถี่ต้องมีการปรับมารยาของผู้ใช้เช่นว่ากล่าวตักเตือน และในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.พัฒพน ศิริวัฒน์ สารวัตรป้องกันปราบปรามและจราจร สภ.โพธิ์กลาง เร่งอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอวิทยาการจาก กสทช.เขต 7 ให้ความรู้ในการตรวจจับและวิธีการตรวจจับในการตรวจจับร่วมกันเป็นสถานีตำรวจนำร่องของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งจะเชิญมูลนิธิกู้ภัยต่างๆให้เข้าใจ ถ้าหากอาสาสมัครไม่ได้ปฏิบัติงานพบวิทยุสื่อสาร และมีวิทยุที่ไม่มีการควบคุมจะดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะทุกวันนี้จะพบว่าผู้ประกอบเหตุนำไปดักฟัง และทุกด่านตรวจยาเสพติดหรือด่านบูรณาการณ์ จะเน้นให้ตรวจรถอาสาของทุกหน่วยงานที่ โดยจะสุ่มตรวจและจะขอความร่วมมือมูลนิธิกู้ภัยและจากศูนย์VRจราเมื่องย่าโมร่วมกับตำรวจภูธรและตำรวจทางหลวง จังหวัดนครราชสีมาให้ช่วยในการทำงานอีกแรง ในส่วนของประธานมูลนิธิกู้ภัยและหัวหน้ากู้ภัย ได้ฝากถึงอาสากู้ภัย อย่านำเครื่องแบบของหน่วยงานไปทำในสิ่งที่ผิดกฏหมาย ถ้าหากมีเรื่องมีราวแล้วจะทำให้องค์ได้รับความเสียหาย ถ้าหากประชาชนพบการปฏิบัติตนของอาสาไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมให้แจ้งไปโดยตรงที่ประธานมูลนิธิกู้ภัยและหัวหน้ากู้ภัยนั้น เพราะพวกเรามีหน้าที่อาสามาบริการประชาชน ถ้าหากฝ่าฝื่นทางมูลนิธิกู้ภัยจะไม่มีการช่วยเหลือเด็จขาด