จากกระทู้
http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=33800.0deviation หรือ ค่าความดังของเสียง
เสียงพูดที่ใช้ในการสื่อสารของคนเรามีความถี่อยู่ในช่วง 350-3.5khz ส่วนใหญ่ก็อยู่ระหว่าง 300Hz - 2.7khz
มีการกำหนดให้เสียงพูดที่ใช้ในการสื่อสารของคนเราไม่เกิน 3khz บางที่ใช้ 3.5khzและวิทยุสื่อสาร ผู้ผลิตกำหนดค่า deviation หรือค่าความดังของเสียงที่เครื่องจะนำไปผสมคลื่นออกอากาศ
ของเครื่องที่มีวงจรควบคุมให้ไม่เกิน 5khz เพื่อนำมาใช้กับ step 25khz (ไม่เช่นนั้นจะทำให้ bandwidth เกิน 25khz)
เรียกกันว่า WIDE BAND
โดยที่มามาจากสูตร ที่ใช้ค่าทั้งสองค่าเป็นสูตรสำหรับคำนวนความกว้างของความถี่ (ฺBandwidth)
Bandwidth = 2 Deviation + 2 Max audio frequency เราเอาค่าความดังเสียงของคน (max audio) = 3 khz
ค่าความดังของเครื่องที่ผู้ผลิตกำหนด (deviation) = 5 khz
Bandwidth = 2x5 + 2x3 =
16khzซึ่งหมายถึง ในการสื่อสารปกติด้วยเครื่องวิทยุสื่อสาร ต้องมีแถบความกว้่าง(bandwidth) = 16khzเมื่อก่อนเรากำหนดเป็น step 25khz 16khz จึงใช้ได้ไม่มีปัญหาล้นช่อง ไปรบกวน
เมื่อเราต้องการการใช้งานช่องมากขึ้นอีก จึงมีการกำหนดใหม่ เป็น step 12.5khz (เพื่อใช้ในช่วง 144-146 เหมือนเดิมให้ได้)
ิฺฺBANDWIDTH จึงไม่พอสำหรับการใช้งาน เนื่องจากเมื่อส่ง ความกว้างจะล้นไป 16>12.5
ทำให้้ล้นไปรบกวนช่องข้างเคียง บริษัทฯ ผู้ผลิตจึงไปทำการตั้งค่าวงจรเครื่องส่งใหม่ จากโรงงานให้มี deviation 3.5khz
Bandwidth = 2x3 + 2x3.5 =
13khz ซึ่งเกินกำหนดเล็กน้อย
แต่อนุโลมให้ใช้ เนื่องจากการใช้งานจริงคงไม่มีใครใช้ระดับเสียงถึง 3khz
ดังนั้น deviation ของความกว้างที่จะไม่ล้นไปกวนใน step12.5khz คือ 3.5khzในช่วงความถี่ step 12.5khz เราจึงใช้ค่า deviation 3.5khz
เพื่อใ้ห้ bandwidth ออกมาไม่เกิน 12.5khz เพื่อไม่ให้รบกวนช่องข้างเคียงเครื่องวิทยุรุ่นเก่า จะใช้ WIDE BAND (ความถี่กว้าง)25khz
ส่วนเครื่องรุ่นใหม่ที่ผลิตมารองรับ step 12.5k จะใช้ NARROW BAND (ความถี่แคบ) 12.5khz
เนื่องจากต้องบีบระดับเสียงลงมา ทำให้การใช้ narrow band ทำให้เสียงที่ไปถึงคู่สนทนาจะเบาลง และคุณภาพด้อยลง
เครื่องวิทยุสื่อสารรุ่นเก่าๆ อย่าง icom 2100 ลงมา หรือ Kenwood TM-241 Yaesu FT-2400 เป็นเครื่องแบบ wide band ทั้งนั้น
มีเครื่องโมบายรุ่น Icom IC 2200 , Yaesu FT-2800 กับ FM-9012 และ Kenwood TM-271 เท่านั้นที่เป็น Narrow band จริงๆ
ตามข้อมูลนี้ แปลว่าเครื่องที่เป็น narrow จะมีค่าความถี่ที่แม่นยำไม่ล้นไปข้างเคียง
แต่คุณภาพเสียงจะด้อย และเบากว่าปกติ ต่างจากเครื่องรุ่นเก่า เสียงจะชัด แต่ความถี่จะล้นช่องข้างเคียงหากนำ เครื่อง narrow band เช่น ic2200 ไปส่งแทรกเกอร์ในระบบ narrow อาจจะให้คุณภาพเสียงด้อยลง และเบากว่าเครื่องปกติ เครื่องรุ่นเก่าอื่นๆความถี่ที่ใช้ในการส่ง packet APRS ของเราคือ 1200 Hz และ 2200 Hz 2200 = 2.2khz(ข้อมูลจาก note facebook e20gmy)จากสูตร
Bandwidth = 2 Deviation + 2 Max audio frequency
Max audio frequency = 2.2 มาจากความถี่เสียงที่ใช้กับ VHF 1200 bps packet radio โดยใช้ความถี่เสียง 1200 Hz กับ 2200 Hz
ถ้าค่า Deviation = 3.5 kHz
Bandwidth = 2 Deviation + 2 Max audio frequency
= (2 x 3.5) + (2 x 2.2)
=
11.4 kHzถ้าค่า Deviation = 4.0 kHz
Bandwidth = 2 Deviation + 2 Max audio frequency
= (2 x 4.0) + (2 x 2.2)
=
12.4 kHz ยังไม่เกิน 12.5 kHz ตามมาตรฐาน Narrow bandwidth ก็ถือว่ายังใช้ได้ แต่ก็ปริ่มๆ สำหรับ NARROW BAND FM
หากค่า bandwidth มันเกิน ก็หมายความว่าคนรับรับเพี้ยนไปแล้ว เพราะส่วนนึงมันข้ามไปช่องอื่น(ถ้าสถานีรับหรือไอเกต รับด้วยเครื่อง Narrow Band)ค่า 3.5 เป็นค่าที่พอเหมาะกับการปรับเสียง แต่ 4.0 ก็ยังไม่เกิน 12.5khz ก็ยังใช้ได้