proprotional pathing ใส่ 1 หมายถึง ยิง 1 ต่อ
หมายถึง เมื่อยิงออกไปแล้ว มีดิจิทวนหนึ่งครั้ง เรายิง 1 , ดิจิทวนเสียงเราอีก 1 ไอเกตรับได้จบ
ดิจิตัวที่สองรับได้ จะไม่ทวนอีกครั้ง
แต่ถ้าใส่ 2 เรายิง 1 ต่อ , ดิจิตัวที่ 1 ทวนออกไป, ดิจิตัวที่สองได้ยิน ดิจิตัวที่สองทวนอีกต่อหนึ่ง
smart beacon
บรรทัดแรก ใส่ 1 กับ 5 สองช่องหมายถึง ถ้าวิ่งช้ากว่า 5 กม./ชม. จะยิงทุก 1 นาที
บรรทัดที่สอง ใส่ 30 กับ 80 หมายถึง ที่ความเร็ว 80 กม.เป็นต้นไปจะยิงทุก 30 วินาที
จุดห่างจุดถี่ อยู่ที่ 30 ตรงนี้ครับ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ตั้งกัน 20 วิ เป็นต้นไป ถ้าต่ำกว่านี้
จะทำให้ส่งกันถี่ แล้วโอกาส ที่คีย์ชนกันในพื้นที่จะสูง ทำให้ packet ทั้งคู่ที่ยิงมาชนกัน หายทั้งคู่
เพราะไอเกตรับไม่ได้
กรณีนี้ใช้สำหรับรถที่อยู่พื้้นที่ห่างไกล ต้องยิงให้ดิจิทอดที่ 1 แล้วทอดที่ 1 ยังไม่ถึงไอเกตอีก ต้องการดิจิตัวที่สอง
มาทวนออกไปอีก
ถ้าใส่เลขตรง beacon interval แล้ว แปลว่า แทรกจะยิงตายตัวทุกจำนวน 1800 วินาที คือ 180 ที่เราป้อน
รวมกับ 0 ตัวหลัง หมายถึงรถจอดแล้ว จะยิงทุกครึ่ง ชม. หนึ่งครั้ง
เวลาจอดจะได้ไม่ส่งถี่ๆจนแบตรถหมด แต่ถ้ารถวิ่งปุ๊บ แทรกจะกลับไปใช้ profile 1 ตามที่เราตั้ง
แต่ถ้าเราใส่ 0 เราต้องมาตั้ง smart beacon ถ้าใส่ตัวเลขแล้ว smart beacon จะไม่ทำงานจะยิงตามเวลาอย่างเดียว
หมุนกลับมาซ้ายสุดนะครับ แล้วยิง จะได้ยินเสียงเงียบ
ค่อยๆบิดทีละนิด (นิดจริงๆนะครับ แค่เกร็งๆแขน) จนเริ่มได้ยินเสียง แล้วก็บิดตามเข็มมาอีกนิดเดียว
น่าจะพอดี
เพราะส่วนใหญ่ประมาณขีดเหลืองนี้ จะพอดี
แต่ก็ต้องแล้วแต่เครื่องแต่ละตัวด้วยครับ ลองเบื้องต้นก่อน ของจริงงานลำปางน่าจะมีเครื่องไปให้บริการครับ
ฝากเพื่อนๆจัดสรร การยิงให้อย่าถี่มาก และ ไม่ต้องทวนซ้ำครับ เพราะทำให้ความถี่หนาแน่น
ลองเปิดฟ้งดูก็ได้ครับ จะได้ยิน เสียงแพ็คเกตติดๆ กัน และถ้าเสาไอเกตสูง จะทำให้ได้ยินมากกว่าสองสถานีพร้อมกัน เมื่อเบียดกัน แพ็คเกตหายทั้งคู่ครับลองตั้งดูครับ ตามการใช้งาน แต่ตั้ง p2 ตามนี้จะเจอปัญหารถจอดแล้วสัญลักษณ์ P จะยังไม่ขึ้น
จนกว่าจะครบ ครึ่งชม. ถึงจะเปลี่ยน เพราะบางครั้ง gps จับได้ว่าเราวิ่งเร็วกว่า 9 กม. เลยยังไม่เปลี่ยนไปเป็นตัว P
แต่ถ้า gps แม่นๆ ก็พอรถเราชลอ ช้ากว่า 9 กม.ปุ๊บ มันจะเปลี่ยนไปเป็นสัญลักษณ์ P ทันที