อย่างที่หลายๆท่านพูดครับ เสาแต่ละรุ่นราคาและคุณภาพต่างกัน
ผมเองก็ใช้มาหลายรุ่นแล้ว แรกๆก็เน้นแพงแรงอะไรประมาณนี้
สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็ถูกจำกัดด้วย ลักษณะการใช้งานของรถเราจริง
รถผมเป็นรถบ้านที่ไม่มีกระบะหลังคาสูง ต้องติดที่ฝากระโปรงหลัง เลือกใช้ c load มาพักหนึ่ง
แล้วเปลี่ยนทาใช้ D 285s เพราะสั้นกว่าหน่อย แต่ยังไม่พ้นเรื่อง
เสาขุดกับพื้นที่จอดรถอยู่และอีกเรื่องคือสัญญานที่แพร่กระจายจากเสา
มีผนทำให้ผมรู้สึกปวดหัว เวลาออกอากาศ จึงตัดสินใจไปเลือกคบ
สายนำสัญญานและอากาศของ Laird 1/4 กับเมาท์ครบชุด
น่าจะดีขึ้นครับ เพราะอยู่บนหัว
เป็นความจริงแท้อันแน่นอนครับ...
เล่นใหม่ ๆ ก็อยากแรง อยากไกล ๆ ราคาเท่าไหร่ไม่เกี่ยง...
ผลตามมาอีกหลายประการ..แต่ด้านอนามัยนี่สำคัญสุดครับ... สายอากาศที่ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถแพร่กระจายคลื่นเข้าหาหัวสมองเรานี่น่ากลัวสุด ควรหลีกเลี่ยงครับ เช่นติดท้ายกระบะ ไอ้ที่ติดอยู่ท้ายๆ ใกล้ฝาท้ายก็ยังมีระยะในการลดความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสายอากาศมาถึงหัวสมองเราที่นั่งขับได้บ้าง.. แต่ไอ้พันที่ติดตรงขอบกระบะตรงหลังคนขับเลยนี่โดนเข้าสมองแบบเต็ม ๆ ครับ... ยิ่งส่งแรง ยิ่งโดนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหนักเป็นทวีคูณ...
ข้อมูลทางวิชาการบ่งบอกว่า การติดสายอากาศตรงกลางหลังคารถนี้ดีสุด..เช่น
- ได้กราวด์เพลนดีที่สุดโดยเฉพาะกลางหลังคาเลย
- รูปทรงการแผ่กระจายคลื่นได้รอบทิศทาง เท่า ๆ กัน
- ค่า SWR จะถูกต้องที่สุด (สำหรับสายอากาศต้นนั้นๆ)
- การวางสายอากาศกลางหลังคารถ เมื่อสายอากาศมีการแผ่กระจายคลื่น เหล็กหลังคารถจะช่วยลดทอนคลื่นที่แผ่เข้าสู่หัวสมองของคนนั่งในรถให้ลดลงได้เยอะทีเดียว...
...
สุดท้ายขอผมเหลือแต่ ควอเตอร์เวฟสั้น ๆ อันเดียวบนหลังคารถ... และเพื่อลดสัญญาญคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็เปลี่ยน PA ให้ส่งออกสูงสุดเพียง 10 วัตต์ (แต่เวลาใช้งาน ส่งแค่ Low หรือ Mid ก็พอ) แต่เหตุที่เปลี่ยน PA ให้เหลือ 10 วัตต์ เพราะว่าเผื่อลืมแล้วนึกอยากแรงกะเค้ามั่ง มันก็จะไปจำกัดกำลังส่งแค่ 10 วัตต์เอง... แต่ถ้าเครื่องสามารถส่งออกได้เยอะ ๆ แล้วมาส่ง Low มันก็ไม่ต่างอะไร แต่ถ้าเกิดคึกขึ้นมา กดส่ง Hi เข้าวันใด มันก็ออกไปเต็ม ๆ อยู่ดี